วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2567

แด่...นังสางหมาวัด

     รูปนี้เป็นรูปสุดท้ายของนังสาง ถ่ายไว้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ที่วัดขวิด บ้านใหม่ของนาง นางมาอยู่ที่นี่ได้ไง บ้านเก่านางล่ะ ทำไมนางต้องมีบ้านใหม่ และนางเป็นใคร และนี่คือเรื่องราวของนาง

     เมื่อ 3 ปีก่อน ที่เทศบาลตำบลโพธิ์ทองไฟไหม้ เราได้ย้ายสำนักงานมายังอาคารเรียนเก่าของโรงเรียนอนุบาลโพธิ์ทอง วัดเกาะ เราพบนางนอนอยู่ที่อาคารเรียนนี่ล่ะ สภาพนางเฟอะทั้งตัว กลิ่นงี้แรงแบบร้อยเมตร ผิวหนังมีแผลแฉะ ๆ เยิ้ม ๆ คันคะเยอะทั้งตัว หูก็หงิก นอนตรงไหนก็เหม็นตรงนั้น ใคร ๆ ก็รังเกียจนาง ไล่นาง เราสงสาร ก็เลยปรึกษาเหน่ง ถ่ายรูปนางให้หมอเปีย สามีเหน่งดูแล้วจ่ายยามาให้กิน ช่วงนั้นกินติด ๆ กันทุกวัน จนสภาพผิวนางดีขึ้นมาก กลิ่นจางลง คันน้อยลง

     






หลังกินยายังมีแผลเหลืออยู่ให้เห็นบ้าง แต่ก็ถือว่าดีขึ้นมากกว่าแรก ๆ หูนางหายหงิก แต่ก็กลายเป็นหูตกข้างนึง ตั้งข้างนึง ขนเริ่มหนาขึ้น อาการคันยังมีอยู่









     สภาพเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปตอนนางเป็นเยอะ ๆ ไว้ ตอนที่เจอกันใหม่ ๆ น่ะ ตอนนี้เหลือแค่ความทรงจำละ











     นี่คือไอ้เขียวหมาพี่ใบ้ทั้งคู่ ไอ้เขียวมาแค่ช่วงเช้ากับช่วงเย็นเลิกงาน มารอกินที่ป้าติ๋ว


     ส่วนนี่คือไอ้ขาว ตอนมาใหม่ ๆ ถูกฟันปากมา แย่งกินเก่งมาก พร้อมแย่งทุกตัวตลอดเวลา






นี่คือนังแดงเจ้าถิ่น มาจากฝั่งโรงเรียน นิสัยดี แต่ชอบกวดคน ไม่ใช่กวดทุกคน กวดเฉพาะพวกรุ่มร่าม หรือคนที่นางคิดว่าน่าสงสัย คือนางหวงของแหละ 



















     นังแดง นางกินช้า พิจารณาเยอะ งับแมลงวันมั่ง แมลงหวี่มั่ง เวลาให้นางกินต้องคอยเฝ้า ไม่งั้นถูกแย่งหมด นางกินหมดเป็นตัวสุดท้ายทุกครั้ง









     พวกนางมีจาน มีชามเป็นของตัวเอง เราล้างให้ทุกครั้งสะอาดหมดจด น้ำกินเปลี่ยนให้ เก็บกวาดที่กินทุกครั้งไม่มีเลอะ













ช่วงนั้นเรามาให้อาหารนางทุกวันหยุด สมาชิกก็จะมีนังแดงขาประจำ มีนังสาง ต่อมาก็มีไอ้เขียว กับ ไอ้ขาว ที่ถูกฟันปากมาขออาศัยกินด้วย วันธรรมดาพวกห้องคลังเค้าจะให้กิน 

     สาง  นางนิสัยดี แต่ค่อนข้างตะกละ กินไม่อิ่มสักที นางเรียบร้อย ไม่กวดใคร ไม่กัดใคร กินอิ่มแล้วก็ไปหาที่นอน ซึ่งไม่พ้นหน้าห้อง หน้าตึก ทางเดิน  ทำให้เป็นที่รำคาญตาของคนหลายคน มีเสียงไล่ เสียงด่าลอยมากระทบบ้างเป็นครั้งคราว แต่ก็ยังมีป้าติ๋วค้ำอยู่ เลยไม่กระเทือนมาก เรื่องมาเกิดหลังจากที่ป้าติ๋วเกษียณอายุราชการไปเมื่อ 30 กันยายน 2564 พอไร้เงาป้าติ๋ว นังพวกนี้ก็ได้รับความเดือดร้อนทันที เริ่มต้นจาก
     รักษาการณ์ ผอ. กองคลังเข้าห้อง อีกี้ ก็ต้องกระเด็นมาอยู่กับเรา นางไม่มีที่ไปแล้ว ถ้าไม่รับไว้ นางก็จะถูกด่า ถูกตี ถูกไล่ เพราะคนใหม่ไม่เหมือนป้าติ๋ว ที่รักและเมตตามันเสมอ
     น้าเยาว์ มาบอกให้เราเลิกให้อาหารหมา เพราะรับปาก....ไว้ .....คนนั้นเค้าพูดปาว ๆ ว่า คุยกันแล้ว นายกบอกแล้ว เค้าจะย้ายหมาวัด ไปปล่อยที่อื่น บ่อขยะบ้าง วัดอื่นบ้าง ทำให้เราเครียดทันที อย่างแรก สาง ต้องกินยาประจำ ไม่งั้นจะเหม็นและเฟอะเหมือนเดิมอีก ตัวอื่นล่ะจะทำไง มันทำให้เบื้องหลังคนรักสัตว์มาปรึกษากัน จนได้ข้อสรุปว่า 
          นังแดง หัวหน้ากองการศึกษาจะรับไปอยู่ด้วย 
          ส่วนนังสาง กะ ไอ้ขาว จะให้ไปอยู่ที่วัดหนองกระดี่ที่อ่างทอง เพราะน้าแฟตไปช่วยสร้างคอก นางจะได้มีที่อยู่ที่กิน แล้วเราค่อยไปเยี่ยมเยียนนาง
          ไอ้เขียว ทำอะไรไม่ได้ หมาวัด มันไม่ได้มานอนตลอด 

     เราก็คุยกับกับขวัญ มันก็ช่วยหาทางให้ บอกพระที่วัดขวิดเรื่องของ สาง กับ ไอ้ขาว พระท่านก็เมตตามัน ให้มันมาอยู่ด้วย บอกเอามาเหอะ มีของกินเยอะ มีที่อยู่ คนไม่พลุกพล่าน นึกถึงตอนเราไม่มีที่อยู่ จะได้มีคนเมตตา


  
    
           ขวัญติดต่อหลวงพ่อที่วัดขวิดให้ ขอพาสางไปอยู่ด้วยอีกตัว หลวงพ่ออนุญาต เราเป็นคนใส่โซ่ ส่งสางขึ้นรถกับมือเราเองนี่ล่ะ ก่อนจะไปส่งวัดประมาณ 3 วัน สางกินข้าวปกติ แต่ตาดูขุ่น ๆ มัว ๆ หลังจากไปที่วัดแล้ว เราก็ไปหาตอนเย็น ซื้อหนมปังไปด้วยอีกหลายอันเผื่อเพื่อนสางด้วย เราอยู่เป็นเพื่อนนางพักนึง ให้กินหนมปัง พระเจ้าอาวาสก็ออกมาคุยด้วย บอกไม้ต้องห่วง จะดูให้ ขากลับ เราก็บอกสางว่า มะรืนนี้จะเอายามาให้กินนะ อยู่นี่ไม่ดื้อนะ พอขับรถออกสางก็จะวิ่งตามมา หลวงพ่อท่านจับไว้บอกว่าอยู่นี่กับหลวงพ่อแหละ อย่าไปเลย 
          พอถึงวันนัด ตอนเช้าแต่งตัวมาทำงานก็นึกอยู่ในใจว่า เย็นนี้จะไปหาสาง เอาหนมปัง เอายาไปป้อน พอมาถึงที่ทำงานได้สักแป๊บ น้าสาก็เข้ามาบอกว่าให้ทำใจดี ๆ นะ หลวงพ่อวัดขวิดเค้าฝากมาบอกว่าสางมันถูกรถชนตายแล้ว มันจะตามหลวงพ่อไปรับบาตร หลวงพ่อเค้าไม่ให้ไปมันก็เดินกลับวัด ขากลับถูกรถชน หลวงพ่อเค้าฝังแล้ว เราก็แอบไปร้องให้ยกใหญ่ หาที่อยู่ให้ได้แล้ว สบายแล้ว ก็ยังไม่วาย แรก ๆ โกรธทุกคนที่มีส่วนทำให้สางต้องย้ายที่อยู่ แต่พอเวลาผ่านไป ถามว่ายังโกรธไหม โกรธนะ ใครทำอะไรกันไว้ก็ต้องรับกันไป ช่วยอะไรไม่ได้ 
          สำหรับสาง นางไปสบายแล้ว เวลาเราทำบุญก็จะอุทิศกุศลให้ทุกครั้งไม่เคยขาดป่านนี้นางคงไปเกิดใหม่ อยู่ในที่ดี ๆ แล้วล่ะ แต่ก็ยังคิดถึงนางเสมอ ใครจะรังเกียจก็ช่าง เราไม่เคยรังเกียจนาง สางคงรับรู้ล่ะ
          มาจนวันนี้ คนที่เค้าเคยรังเกียจสาง เค้าก็เจอกับอะไรหลาย ๆ อย่าง ต้องย้อนกลับมาขอยืมเงินเราใช้ คนเราไม่มีใครพ้นกรรม ทำอะไรไว้ก็ต้องตามชดใช้กันไป สำหรับเรา ยังไม่เคยลืมสาง นึกถึงเสมอ ใส่บาตรก็อุทิศบุญให้ตลอดไม่ว่าสางจะอยู่ที่ไหน ไปเกิดเป็นอะไร ก็ขอให้ผลบุญติดตามตัวไปช่วยอุดหนุน ค้ำชู อย่าให้ตกต่ำ อย่าให้ลำบาก 
          ที่ของสางคงอยู่ตรงนั้น กรรมกำหนดมาแบบนั้น เราเองก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้แล้ว ก่อนจะไปไว้ที่วัดขวิด ก็พาไปไว้ที่บ้านเฮียชิต ก็คอยจะหลบออกมา เดี๋ยวหายไปล่ะ ตามไม่เจอแน่ เราเลยต้องพามาไว้ที่เทศบาลเหมือนเดิม จนต้องไปวัดขวิด แล้วก็เกิดเหตุข้างต้นตามมา 
          จนทุกวันนี้ สางยังอยู่ในใจเราเสมอ อยากบอกสางนะ ขอให้สางรับรู้ เราไม่เคยรังเกียจสางนะ อยากให้หาย ถึงได้เอายามารักษา รัก และเป็นห่วง นึกถึงสางเสมอ ไม่เคยลืม ส่วนนังแดง ก็ยังนึกถึง แต่จนปัญญา ได้แต่ถามข่าวคราวจากปุ๊กเอา เป็นอันว่า ปิดฉาก นังสาง วัดเกาะ






 


 

แด่...นังสางหมาวัด

     รูปนี้เป็นรูปสุดท้ายของนังสาง ถ่ายไว้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ที่วัดขวิด บ้านใหม่ของนาง นางมาอยู่ที่นี่ได้ไง บ้านเก่านางล่ะ ท...