วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2564

โควิด-19

 

          โควิด -19 อยู่กับคนไทยมาเกือบครบ 2 ปีแล้ว มันทำให้คนไทยสูญเสียอะไรหลาย ๆ อย่าง บางคนสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่มีจะกิน บางครอบครัวต้องเสียคนที่เป็นที่รัก เป็นเสาหลัก แทบหมดครอบครัวก็มี

          ฉันก็สูญเสียบุคคลที่รักและเคารพเปรียบเสมือนญาติสนิท ครูเฉลิมพล ศรีอิทยาจิต ท่านจากไปอย่างไม่มีวันกลับเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2564 เวลา 06.00 น.

          ครูเฉลิมพลท่านเป็นคนที่ดีมาก ยิ้มกว้าง หัวเราะอยู่ตลอดเวลา ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิม วัดพระขาว อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สมัยหลวงปู่ยังชีวิตอยู่ ครูเฉลิมพลจะไปวัดทุกวันหยุด ใครให้ดูดวงให้ ครูก็ยินดีใครให้ค่าดูครูก็หย่อนลงตู้รับบริจาคที่วัดหมดทุกบาททุกสตางค์ 

          ครูเฉลิมพลดูดวงเก่งที่สุด แม่นที่สุด บอกว่าภายใน 15 วัน ก็ 15 วัน 45 วัน ก็ 45 วัน ที่สำคัญ ทุกคำแนะนำของครูสามารถนำมาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และยังไม่ต้องเสียเงินทำพิธีนู่นนี่นั่น ถ้าจะเสียก็เสียเงินซื้อของใส่บาตรทำบุญตามกำลังแหล่ะค่ะ

          หนูรู้จักครูมาตั้งแต่สมัยทำงานเทคนิคอ่างทอง จะ 20 ปีแล้วค่ะ ได้ครูนี้ล่ะคอยแนะนำ สั่งสอน ชี้ทางให้ มาโดยตลอด มีเรื่องอะไร ปรึกษาอะไรครูไม่เคยปฏิเสธ ครูจะบอกหนูเสมอ ให้มีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ตัวเองมีหน้าที่อะไรทำไปให้ดีที่สุด อย่าสนใจเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องตัว ใครจะนินทาว่าร้ายยังไงไม่ต้องสน หมั่นสวดมนต์ทุกวัน เดี๋ยวดีเอง จนปัจจุบันหนูออกมาทำงานที่อื่นแล้วแต่เราก็ยังติดต่อกันอยู่เสมอ ยิ่งพอมีแอปไลน์ หนูกับครูคุยกันได้ทุกวันไม่มีขาด 

          ช่วงหลังมาครูชอบว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน ปั่นจนรถล้มต้องไปผ่าสมอง แต่ครูก็ไม่ยอมแพ้ กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้ รุ่นนั้นหนูดีใจมากเลยค่ะ หลังจากผ่าสมองหายเป็นปกติ ครูชอบปั่นจักรยานออกตามทุ่งตามนา หนูยังเคยเตือนว่าให้มีเพื่อนไปด้วยบ้างดีไหม เผื่อฉุกเฉินอะไรขึ้นมา ครูบอกว่าครูพกโทรศัพท์ไปด้วย ไม่เป็นไร จากนั้นขณะที่ครูปั่นจักรยานครูก็ยังส่งไลน์คุยกับหนูได้ด้วย หนูยังแปลกใจและคิดว่าครูไปหยุดอยู่ตรงไหนนะ ไปปั่นถึงไหน แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก เรายังคงส่งไลน์หากันทุกวัน คุยกันปรึกษากันบ่อย ๆ นาน ๆ ครั้งหนูจะเข้าไปเยี่ยมครูที่บ้าน เจอบ้าง ไม่เจอบ้าง เพราะกว่าครูจะปั่นจักรยานเข้าบ้านก็ต้องช่วงบ่ายโมงไปแล้วนู่นแน่ะ

          น่าจะเป็นช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ที่หนูเข้าไปหาครู ๆ ยังให้ฟ้าทลายโจรหนูมา 2 ซอง บอกว่าถ้าเป็นโควิดนะ กินไปเลยมื้อละ 8 เม็ด แต่ทำไม ทำไมครูกินไม่ทันคะ 

วันที่ 6 กันยายน 2564 กนูผิดสังเกตุที่ครูไม่ไลน์มาคุยกับหนูเลย 2 วันแล้ว หนูก็เลยไลน์ถามครูว่าไม่สบายหรือเปล่า แล้วก็โทรหาพี่นกให้พี่เค้าขับรถไปดูครูทีว่าเป็นอะไรมั้ย พี่นกบอกมาว่าเข้าไปไม่ได้เขาเป็นโควิดกัน หนูก็ยังไม่คิดว่าตัวครูเองที่เป็น หนูคิดว่าครูอ่ะกักตัว ลูกสาวครูเป็นคนเดียว  หนูก็เลยโทรหาครู 2-3 สาย ครูก็ไม่รับ จนบ่ายจัด ครูโทรกลับมาหาหนูว่ามีเบอร์ 699 ค้างสายอยู่ หนูบอกว่าหนูโทรเองครู เห็นเงียบไปก็จะถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า โทรหาพี่นก ให้เขาขับรถมาดูที เขาก็ว่ามาไม่ได้ไอ้แพรวมันเป็นโควิด ครูก็ยังบอกว่าเป็นกันทั้งบ้านเลย พี่เป็นเยอะสุด เขาออกมาจ่ายตลาดทุกวันโอกาสติดมัน 100% อยู่แล้ว หนูยังบอกว่าไทยเราเข้าถึงวัคซีนกันช้ามาก ครูก็บอกว่าใช่ ๆ แต่พี่ไม่กล้าฉีด พี่ผ่าสมอง หมอไม่อยากให้เสี่ยง ตอนนี้อยู่โรงพยายาลอ่างทอง คุยมากไม่ได้ เหนื่อย พอครูพูดงี้หนูก็บอกว่างั้นเลิกคุยครู พักมาก ๆ หายเร็ว ๆ ค่ะ แล้วก็วางสายไป เสียงหายใจครูหอบมาก เหนื่อยจริง นาทีนั้นหนูคิดแล้วว่าครูคงไม่ได้กลับบ้านแต่หนูไม่พูดกับใครเลย

          หลังจากวันที่คุยกันทางโทรศัพท์ 7 กย 2564 ช่วงบ่ายโมงนิด ๆ ครูก็จะส่งภาพมาให้ทุกวันเหมือนเดิม ครูบอกว่าอยากทำอะไรทำ อยากไปเที่ยวไหนไป อยากกินอะไรกิน อย่ารีรอ

          













ครูยังคงคิดถึงคนอื่นก่อนตัวเองอยู่เสมอ พยายามทำตัวเป็นปกติ ส่งไลน์ให้หนูทุกวันเพื่อให้หนูเห็นว่าครูยังอยู่ดี หนูเห็นไลน์ครู หนูก็คิดว่า เออ ครูยังไหวอยู่











          จนมาวันพฤหัสบดีที่ 9 กย 2564 หนูยังถามครูอยู่เลยว่าดีขึ้นมั้ย ครูก็ส่งสติ๊กเกอร์กลับมาว่า โอเค หนูบอกให้ครูแข็งแรงเร็ว ๆ กลับบ้านไว ๆ ครูอ่านแต่ไม่ตอบหนูแล้ว 



 
วันศุกร์  ครูส่งรูปมาให้หนูเหมือนเคย พอหนูส่งตอบกลับไปครูก็ไม่อ่านแล้ว รูปนี้เป็นรูปสุดท้ายที่ครูส่งให้หนู เพราะพอมาวันเสาร์ หนูส่งไลน์ให้ครู ๆ ก็ไม่ตอบแล้ว
หนูถามว่าครูดีขึ้นมั้ย ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับแล้ว พอวันอาทิตย์ หนูไม่เคยคิดจะแอดไลน์ครูเอ๋เลย แต่วันนี้กนูแอดไป ถามว่าครูเป็นไงมั่ง เขาตอบสวนมาทันทีค่ะ ว่า แฟนพี่เสียแล้วนะ หนูนี่ไปไม่เป็นเลยค่ะ นึกไม่ถึงว่าครูจะจากไปแบบนี้ จนวันนี้หนูก็ยังคิดว่ามันไม่น่าเกิดขึ้นอยู่ดี หนูยังยอมรับเรื่องนี้ไม่ได้ หนูมาตั้งสติคิดได้อีกทีก็คือ ครูไม่อยากให้หนูเป็นห่วง ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็แย่อยู่แล้ว แต่พอมีสติครูก็จะทักไลน์มาหา เพื่อหนูจะได้ไม่ห่วง ไม่กังวล วันเสาร์ครูคงไม่มีสติแล้ว และจากไปตอนหกโมงเช้าวันอาทิตย์ 
 
          หนูจะไม่ลืม คำสอนของครู จากนี้ไปหนูจะตั้งใจทำให้ดีที่สุด มีอีกหลายเรื่องที่หนูจะเล่าให้ครูฟัง ขอคำปรึกษา คำชี้แนะ แต่มันสายไปแล้วค่ะ แต่หนูจะไม่ท้อ คำสอนของครู จะอยู่ในใจหนูเสมอ กำลังใจจากครู จะอยู่กับหนูตลอดเวลา ที่ผ่านมาเกือบ 20 ปี หนูกราบขอบพระคุณครูมากค่ะ หนูเชื่อว่าครูจะไปในที่ดี ที่สูงส่ง ที่มีความสุข และเมื่อถึงเวลาของหนู เราอาจได้พบกันอีกครั้งนะคะ 
                                   ลาก่อนนะคะครูเฉลิมพล 
                                                    💗

















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

แด่...นังสางหมาวัด

     รูปนี้เป็นรูปสุดท้ายของนังสาง ถ่ายไว้เมื่อช่วงเย็นวันที่ 27 ตุลาคม 2564 ที่วัดขวิด บ้านใหม่ของนาง นางมาอยู่ที่นี่ได้ไง บ้านเก่านางล่ะ ท...